Neo

Neo เป็น Community Blockchain Platform รูปแบบ Open-Source ที่เป็นแหล่งรวบรวม สินทรัพย์ดิจิทัล, ข้อมูลอัตลักษณ์ตัวตนทางโลกดิจิทัล (Digital Identities) และ Smart Contract

Neo (เหรียญ NEO) คืออะไร? 

  • Neo (เหรียญ NEO) เป็น Community รูปแบบ Open-Source ที่มุ่งเน้นพัฒนาไปในเรื่อง Blockchain Ecosystem ที่ได้ทำการเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วว่าเป็น Worldwide Community ที่เป็นแหล่งรวมของทั้งนักพัฒนา และผู้ใช้งานทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน 
  • Neo ได้ทำการรวบรวมทรัพยากรต่าง ๆ ได้แก่ สินทรัพย์ดิจิทัล, ข้อมูลอัตลักษณ์ตัวตนทางโลกดิจิทัล (Digital Identities) และ Smart Contract มาให้บริการใช้สำหรับทำการออกแบบพัฒนาฐากฐานของ Internet เจนเนอเรชั่นต่อไปในอนาคต  
  • Neo นั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่าย Poly ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องการดำเนินงานร่วมกับระบบอื่น ๆ ได้ จึงทำให้ Poly สามารถทำงานแบบ Cross-chain ระหว่าง Blockchain ด้วยกันได้อย่างราบรื่น
  • เครือข่าย Neo จะมีความแตกต่างจากเครือข่าย Blockchain อื่น เนื่องจากมีการใช้งาน Native Token ถึง 2 โทเคนด้วยกัน คือ NEO กับ GAS โทเคน
    • NEO โทเคนมีวัตถุประสงค์สำหรับการนำไปใช้ในเรื่องของ การลงทุน และใช้งานเป็น Governance Token ที่มอบสิทธิแก่ผู้ถือครองให้สามารถทำการโหวตเพื่อปรับปรุงพัฒนาตัวระบบได้
    • GAS โทเคนมีวัตถุประสงค์สำหรับการนำไปใช้ในเรื่องของ การใช้ชำระค่าธรรมเนียมของธุรกรรมบนเครือข่าย

ตัวชี้วัดสำคัญ

ชื่อย่อNEO
ชื่อเต็มNeo
ประเภท/โปรโตคอลNeo Blockchain
อุปทานทั้งหมด100,000,000
อุปทานหมุนเวียนปัจจุบันดูจาก Coinmarketcap
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดดูจาก Coinmarketcap
วันที่สร้างกุมภาพันธ์ 2014
สามารถขุดได้หรือไม่?ไม่สามารถขุดได้

ประวัติของผู้สร้าง Neo (เหรียญ NEO)

Neo (เหรียญ NEO) ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Da Hongfei และคุณ Erik Zhang ทั้งสองนั้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานของ Neo Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่มีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain เนื่องด้วยคุณ Da Hongfei ได้เล็งเห็นถึงข้อบกพร่องต่าง ๆ ของ Internet ซึ่งหนึ่งในเป็นเรื่องปัญหาสิทธิการควบคุมดูแลข้อมูลของตัวผู้ใช้เอง ทำให้คุณ Da Hongfei มีความเชื่อมั่นว่า หากนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้จะช่วยทำให้สามารถแก้ไขตรงข้อบกพร่องเหล่านี้ได้

นอกจากนี้คุณ Erik Zhang เป็นผู้ออกแบบอัลกอริทึมที่เรียกว่า Delegated Byzantine Fault Tolerance ที่สามารถช่วยตรวจจับพฤติกรรมไม่พึ่งประสงค์ของผู้ดำเนินงานในเครือข่ายได้ ซึ่งได้มีการนำอัลกอริทึมนี้มาปรับใช้ใน Neo Blockchain นอกจากนี้คุณ Erik ยังรับบทบาทหน้าที่เป็น Core Developer ที่กำลังทำงานร่วมกับทีมงานในการพัฒนา Neo 3.0 ที่เป็น Infrastructure ใหม่ของทางโปรเจกต์อีกด้วย 

วัตถุประสงค์ของเหรียญ NEO

Neo มีเป้าหมายที่จะเป็นส่วนของฐากฐานในการสร้าง Internet ในยุคต่อไป ซึ่งเป็นระบบ Economy ใหม่ที่มีความครอบคลุมในเรื่องของ Payment, Digital identities และสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ เข้ามารวมอยู่ด้วยกัน

ข้อมูลเชิงลึก

  • ทาง Neo ไม่ได้มีการกำหนดในเรื่องของการใช้งาน Programming Languages ต่าง ๆ ในการใช้งานร่วมกับ Protocol ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้แก่นักพัฒนาสามารถนำภาษาโปรแกรมมิ่งต่าง ๆ มารวบเอาไว้ใช้งานใน Neo Ecosystem ได้อย่างสะดวกตามที่ตนถนัด ยกตัวอย่างเช่น ภาษา C#, Python และ Java เป็นต้น ทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้สามารถแก้ไขอุปสรรคของการเข้าใช้งานใน Ecosystem ได้ และยังจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำงานบน Blockchain ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย 
  • ทาง Neo มีการเปิดรับถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการใช้งานคริปโตใหม่ ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานโทเคนประเภท Wrapping หรือ แบบพิเศษอื่น ๆ เพื่อข้ามมาใช้งานบนเครือข่าย 
  • EcoBoost ของ Neo จะเข้ามาช่วยสนับสนุนในส่วนของโปรเจกต์ที่เข้ามาสร้างบน Ecosystem ของ Neo ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะรวมในส่วนของพาร์ทเนอร์ในด้านสื่อสำหรับการประชาสัมพันธ์เรื่องต่าง ๆ ไปยังกลุ่มของคู่ค้า และสถาบัน

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของโปรเจกต์เหรียญ NEO

  • ความจริงที่ว่าทาง Neo มีความเป็น Centralized Platform โดยที่คริปโตส่วนใหญ่นั้นถูกควบคุมโดยกลุ่มนักพัฒนา ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ถือโทเคนรายอื่น 

ข่าวเกี่ยวกับเหรียญ NEO

  • Neo ทำการเปิดตัว Neo-CLI v3.0.3 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการอัปเกรดในหลายส่วน ได้แก่ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ, ประกาศเรื่องลิขสิทธิ์และใบอนุญาตของ Neo และปรับปรุงเรื่องระบบ CLI Console เพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น
  • เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2021 ทาง Neo Council ได้ทำการประกาศลดค่าธรรมเนียม (Gas Fee) ลงถึง 80 % ทำให้การใช้งาน GAS Token ในการทำธุรกรรมบน Neo N3 มีค่าใช้จ่ายน้อยลงเกือบถึง 0.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมอยู่ที่ 0.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ และของการ Mint ตัว NFT น้อยลงเกือบถึง 0.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมอยู่ที่ 2.91 ดอลลาร์สหรัฐฯ 

คอมมูนิตี้ & Whitepaper ลิงก์:

คำเตือน
คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

Read more