กฎการซื้อขาย

TRADING CLEARING & SETTLEMENT RULES – MATCHING ALGORITHM, ORDER HANDLING, ORDER TYPE, ETC.

| ผลประโยชน์ของผู้ลงทุน (END-USER BENEFITS)

บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (“บริษัท”) ใช้ระบบจับคู่คำสั่ง (OMS) เพื่อจับคู่คำสั่งซื้อ หรือ Bid กับคำสั่งขาย หรือ Ask
เพื่อดำเนินการซื้อขาย โดยใช้อัลกอริธึมของคอมพิวเตอร์ เมื่อมีคำสั่งซื้อขายผ่านเข้ามาในระบบซื้อขายแล้ว ระบบซื้อขายจะตรวจสอบว่า คำสั่งนั้นสามารถจับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามได้ทันทีหรือไม่ ถ้าคำสั่งนั้นสามารถจับคู่ได้ทันทีระบบจะทำการจับคู่ให้ แต่ถ้าคำสั่งนั้นไม่สามารถจับคู่ได้ ระบบจะจัดเรียงคำสั่งซื้อขายนั้นโดยใช้ระบบ First-in-first-out (FIFO) ตามหลักการ Price then Time Priority โดยมีหลักการคือ คำสั่งซื้อที่มีราคาเสนอซื้อสูงที่สุดจะถูกจัดเรียงไว้ในลำดับที่หนึ่ง และถ้ามีราคาเสนอซื้อที่สูงกว่าถูกส่งเข้าใหม่ จะจัดเรียง ราคาเสนอซื้อที่สูงกว่าเป็นการเสนอซื้อในลำดับแรกก่อน และถ้ามีการสนอซื้อในราคาเดียวกันที่มากกว่าหนึ่งรายการ ให้จัดเรียงการเสนอเหล่านั้นตามเวลาที่ถูกนำเสนอ

ภายใต้ First-in-first-out (FIFO) ตามหลักการ Price then Time Priority โดยการเสนอซื้อที่ปรากฏในระบบการซื้อขายก่อนจะถูกจัดไว้เป็นการเสนอซื้อในลำดับก่อน ส่วนคำสั่งขายที่มีราคาเสนอขายต่ำที่สุดจะถูกจัดเรียงไว้ในลำดับที่หนึ่ง และหากมีราคาเสนอขายที่ต่ำกว่าถูกส่งเข้ามาใหม่จะจัดเรียงราคาเสนอขายที่ต่ำกว่า เป็นการเสนอขายในลำดับแรกก่อน และถ้ามีการเสนอขายในแต่ละราคามากกว่าหนึ่งรายการให้จัดเรียงตามเวลา โดยการเสนอขายที่ปรากฏในระบบการซื้อขาย ก่อนจะถูกจัดไว้เป็นการเสนอขายในลำดับก่อน ตัวอย่างเช่น หากผู้ลงทุนตั้งออร์เดอร์ซื้อ 1.12 BTC ที่ราคา $5,000 ต่อ 1 BTC และมีออร์เดอร์ขายจากลูกค้าท่านอื่นบนกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลขาย 0.62 BTC ที่ราคา $5,000 ต่อ 1 BTC ระบบจะทำการจับคู่ซื้อขาย 0.62 BTC ทันทีตามหลักการ Price then Time Priority

เพื่ออำนวยความสะดวก และรักษาผลประโยชน์ของลูกค้า บริษัทให้บริการในการซื้อขาย 24/7 คือ 24 ชั่วโมง 7 วัน เนื่องจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นตลาดที่ให้บริการซื้อขาย 24/7 ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ แต่อาจจะมีในบางกรณีที่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับแพลตฟอร์ม

ประโยชน์ที่สำคัญสำหรับนักลงทุน (KEY BENEFITS TO END USERS)

 1. นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ 24/7 – บริษัทมีสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่น และสามารถรองรับปริมาณการซื้อขายอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

2. การชำระราคาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยทันที – การชำระราคาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกดำเนินการให้เกิดขึ้นแทบจะในทันทีในการซื้อขาย

3. รองรับการซื้อขายหลายสกุลเงิน – รองรับสกุลเงินสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลาย และรองรับสกุลเงินประจำชาติ
(สำหรับประเทศไทย ผู้ลงทุนสามารถฝากเงิน หรือถอนเงินได้เฉพาะไทยบาทเท่านั้น)

การเชื่อมต่อ API (TRADING APIS)

AlphaPoint มีคุณสมบัติครบถ้วนมากมายที่ครอบคลุมฟังก์ชันการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหลัก รวมทั้งสามารถสร้างรูปแบบการซื้อขายหลากหลาย:

FIX – รองรับการพิสูจน์ตัวตนที่ปลอดภัย การป้อนคำสั่ง รายงานการดำเนินการ การสืบค้นข้อมูลตลาด และการสมัครสมาชิกรวมถึงการฟีดข้อมูลการตลาด

WebSocket – รองรับการพิสูจน์ตัวตนที่ปลอดภัย การป้อนคำสั่ง รายงานการดำเนินการ การสืบค้นข้อมูลตลาด การสมัครสมาชิก การฟีดข้อมูลการตลาด และฟังก์ชันการฝาก การถอน

REST – รองรับการพิสูจน์ตัวตนที่ปลอดภัย การป้อนคำสั่ง รายงานการดำเนินการ การสืบค้นข้อมูลตลาด และฟังก์ชันการฝาก การถอน

อินเทอร์เฟซของการซื้อขาย (TRADING INTERFACES)

แพลตฟอร์มรองรับอินเทอร์เฟซของการซื้อขายที่หลากหลาย:

– Retail UI – UI ที่ใช้งานง่ายและคล่องตัวสำหรับผู้ใช้ทุกวัน เพื่อตรวจสอบยอดคงเหลือ (monitor balances) และดำเนินการตามคำสั่งของตลาด (execute market orders)

Intermediate UI – UI แบบ Lean แต่เต็มไปด้วยข้อมูลสำหรับผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ (active users) เพื่อดึงดูดตลาดด้วยจำนวนประเภทคำสั่งที่มากขึ้น ซึ่งสามารถมองเห็นแนวโน้ม และการเคลื่อนไหวของตลาดได้มากขึ้น

– Trading UI – GUI การซื้อขายบนเบราว์เซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมี single point สำหรับการโต้ตอบของตลาดที่สำคัญ:

– Order Management

– Trade Reporting

– Quote Management

– Click-to-Trade

– Real-Time Balance Updates

– Market Data

 Screenshot of Trading UI

 Screenshot of Trading UI

| สถาปัตยกรรมแพลตฟอร์ม (PLATFORM ARCHITECTURE)

คุณสมบัติทางเทคนิคที่สำคัญ

1. แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนประสิทธิภาพสูง

2. การออกแบบโมดูลาร์ น้ำหนักเบา/ความจุน้อย สามารถขยายได้

3. Product-agnostic

4. การทำงานร่วมกันกับบริการของบุคคลที่สาม (third-party services) และผลิตภัณฑ์ DLT

AlphaPoint System Diagram and Matching Engine Diagram

สถาปัตยกรรมแพลตฟอร์ม (PLATFORM ARCHITECTURE)

Exchange Platform สร้างขึ้นบนฐานข้อมูล StreamDB แบบฝังแบบกำหนดเอง (custom-embedded StreamDB database) เชื่อมโยงกับ AlphaPoint Distributed Ledger Platform และสร้างขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบข้อผิดพลาด (error-checking) และกำหนดเป้าหมายได้หลายวอลุ่ม

ส่วนประกอบหลักของระบบประกอบด้วย:

– Matching Engine – การออกแบบแบบ Lean รองรับการจับคู่คำสั่งซื้อที่ปริมาณเกิน 1 ล้านธุรกรรมต่อวินาที

OMS – ระบบจัดการคำสั่งที่มีประสิทธิภาพสูง (OMS) จัดการคำขอคำสั่งซื้อที่เข้ามา และส่งเหตุการณ์อัปเดตเกี่ยวกับการดำเนินการ และการเปลี่ยนแปลงสถานะคำสั่งซื้อ สามารถใช้ OMS หลายตัว เพื่อปรับขนาดความจุ และปริมาณงานเพิ่มเติม สำหรับส่วนขยายในอนาคต

– Asset Manager – การรวมผลิตภัณฑ์ การรวมการแลกเปลี่ยนกับระบบธนาคาร FX และเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทที่หลากหลาย (Distributed Ledger Technology systems) การผสานรวมในปัจจุบันประกอบด้วยสกุลเงินประจำชาติมากกว่า 200 สกุล สินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 12 รายการ ซึ่งรวมถึง Bitcoin, Ether, Monero, Bitcoin RPC ที่ได้มาจาก Loyalty tokens และ AlphaPoint Asset Depository

– Gateway – ปลายทางรองรับการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เฟซการซื้อขาย, API และระบบที่เชื่อมต่อโดยตรงผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง (related user-directed systems) ตัวโหลดบาลานซ์จะรักษาประสิทธิภาพของปริมาณงานโดยไม่คำนึงถึงจำนวนผู้ใช้งาน

– Risk Management System – ความเสี่ยงได้รับการจัดการผ่านระบบการจัดการความเสี่ยง (Risk Management System) ซึ่งใช้ข้อจำกัด และการควบคุมที่หลากหลายในการป้อนคำสั่ง (order entry) การดำเนินการ (execution) และการชำระราคา (settlement)

ประเภทคำสั่งซื้อขาย (ORDER TYPES)

คำสั่ง Market Order

คำสั่ง Market Order คือ คำสั่ง Market Order เกิดขึ้นเมื่อคุณต้องการทำคำสั่งซื้อ หรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลในราคาตลาด ตัวอย่างเช่น คุณต้องการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลทันที ไม่ต้องการต่อรองราคา เพียงคุณเลือก Market Order คำสั่งซื้อของคุณจะทำการจับคู่คำสั่งทันทีกับ Order ที่มีคนเสนอขาย ณ ราคาที่ถูกที่สูง หรือ Ask Price ที่ราคาถูกที่สุด ซึ่งคุณจะต้องระมัดระวังในการส่งคำสั่งประเภทนี้ สาเหตุเพราะหากคุณต้องการซื้อในจำนวนมากด้วย Market Order แต่ Ask Price แต่ละราคามีปริมาณน้อย ราคาซื้อของคุณจะทำการซื้อใน “ทุกราคา”จนกว่าจะครบจำนวนที่คุณต้องการ

คำสั่ง Limit Order

 คำสั่ง Limit Order คือ คำสั่ง Limit Order จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณทำคำสั่งซื้อ หรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณในราคาที่กำหนดเอง โดยทั่วไปแล้ว Limit Order ใช้เพื่อทำการเทรดในราคาที่คุณพึงพอใจมากกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน ฟังก์ชันนี้สามารถช่วยให้คุณกำหนดมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลต่ำสุดที่คุณเต็มใจที่จะขาย หรือราคาสูงสุดที่คุณพร้อมจะซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลในการเทรด  ยกตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนี้ราคาบิทคอยน์อยู่ที่ 190,000 บาท แต่คุณต้องการซื้อเมื่อราคาอยู่ที่ 180,000 บาท แทนที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอรอให้ราคาลด คุณสามารถทำการสั่งซื้อด้วย Limit Order ในการซื้อบิทคอยน์ได้เลย เพราะฉะนั้น เมื่อราคาถึง 180,000 บาท เมื่อไหร่ คำสั่งซื้อก็สามารถจับคู่ได้ในทันที

การรวม/เชื่อมต่อกับบุคคลที่สาม (THIRD PARTY INTEGRATIONS)

ระบบโมดูลาร์ (Modular system) ช่วยให้ปรับใช้ส่วนประกอบระบบต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Single Operator Exchange, Cross- Exchange Order Book และ High-Volume Book

สถาปัตยกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย API แบบตาข่าย (Mesh-based, API-driven architecture) ช่วยให้สามารถรวมเข้ากับบริการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย:

– Two Factor Authentication (2FA)

– Google Authenticator

– Authy

– SMS (Twilio)

– Email

– Know Your Customer (KYC)

– Onfido

– Bank Integration

– API connectivity with Krungsri Bank

– Withdraw/Deposit

– Wallet interface for hot and cold wallets

– BitGo